ประกันรถยนต์ระยะสั้น ซื้อออนไลน์ง่ายๆ จ่ายแค่หลักร้อย
ซื้อประกันรถยนต์แบบรายเดือน มีให้เลือกแบบ 30 วัน / 90 วัน / 180 วัน ตรวจสอบรุ่นรถยนต์ของท่านได้ที่นี่เลย!
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ระยะสั้น
ใช้แค่ไหน จ่ายเท่าที่จำเป็น
ประกันรถยนต์ระยะสั้น ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก ตอบโจทย์คนอยากจ่ายเท่าที่จำเป็น ดูแลครบแม้ไม่ได้ใช้รถบ่อย
ประกันรถยนต์ระยะสั้น ตอบโจทย์อะไรบ้าง ?

คุ้มครองรถคู่กรณี
สูงสุด 1,000,000.- / ครั้ง

ทุนประกัน
สูงสุด 200,000.-/เดือน

ค่าเบี้ย
เริ่มต้น 617.-/เดือน

ไม่มีค่าเสียหาย
ส่วนแรก

อุบัติเหตุ
รถชนรถ

คุ้มครอง
รถหาย

คุ้มครอง
รถไฟไหม้

เสียชีวิต
/ ค่ารักษาพยาบาล
Minimal | เมื่อประกันรถยนต์ระยะสั้น ตอบโจทย์ คนอยากจ่ายแค่ “สิ่งที่จำเป็น”
ประกันรถยนต์ระยะสั้น คุ้มครองอะไรบ้าง

คันไหนทำได้ คันไหนทำไม่ได้ ?
- รถอายุไม่เกิน 20 ปี ตามปีจดทะเบียนกลุ่ม 3, 4 และ 5
- รถกระบะบรรทุก (น้ำหนักรวมบรรทุกไม่เกิน 3ตัน) ไม่ติดคอก/ตู้ อายุรถไม่เกิน 20 ปี (ตามปีจดทะเบียน)
- รถใช้รับจ้าง หรือให้เช่า
- รถนำเข้า
- รถ Super Car เช่น Porsche, Bentley, Rolls-Royce เป็นต้น
- รถแต่งโหลดซิ่ง รถแข่ง รถดัดแปลง
- รถที่ไม่มีการผลิตหรือไม่สามารถหาอะไหล่
- ราคารถที่ต่ำกว่า 100,000 บาท รวมทั้งที่มีราคาตลาด ณ ปัจจุบันน้อยกว่าวงเงินที่เอาประกันภัย
คำถามที่พบบ่อย
ประกันรถยนต์ (Motor Insurance) คือประกันภัยที่คุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลที่สามจากอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขับขี่รถยนต์ โดยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกินวงเงินประกันภัยโดยจะคุ้มครอง 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่:
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รถยนต์ เช่น ค่าซ่อมรถ
- ร่างกายและทรัพย์สิน คุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ผู้โดยสารรวมถึงบุคคลภายนอกที่ได้รับบาดเจ็บจากรถคันที่ทำประกันภัย
แนะนำให้ทำประกันรถยนต์เพิ่มด้วยครับ เนื่องจากประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมจาก พ.ร.บ.รถยนต์ เช่น ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม ค่าชดเชยต่างๆ รวมถึงค่าซ่อมรถด้วย แต่ พ.ร.บ. จะคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาล ค่าสินไหมทดแทนเมื่อเสียชีวิตเท่านั้น ไม่ได้คุ้มครองตัวรถนั่นเอง
นอกจากเลือกความคุ้มครองแล้วไลฟ์สไตล์การขับขี่ก็สำคัญไม่แพ้กัน:
- ประกันชั้น 1 เหมาะกับมือใหม่ หรือผู้ที่เพิ่งซื้อรถใหม่ ต้องการความคุ้มครองครบ
- ประกันชั้น 2+ เหมาะกับผู้ที่ขับรถชำนาญ ขับทุกวัน หรือเดินทางบ่อย
- ประกันชั้น 3+ สำหรับสายประหยัด แต่อยากอุ่นใจเรื่องอุบัติเหตุ
- ประกันชั้น 3 เหมาะกับผู้ที่ขับรถเก่าหรือรถมือสอง และไม่เคยมีประวัติขับรถชนเลย
หากแต่งรถเพื่อความสวยงาม หรือเพื่อให้รถยึดเกาะกับถนนได้ดีขึ้น ประกันยังคงให้ความคุ้มครองครับ แต่ถ้าตกแต่งรถหลังจากทำประกันไปแล้ว ต้องแจ้งให้บริษัทฯ ประกันทราบเพื่อความคุ้มครองชุดอุปกรณ์ตกแต่งนั้นด้วย หากไม่แจ้ง บริษัทฯ ประกันจะคุ้มครองอุปกรณ์พื้นฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ตามที่ออกจากโรงงานเท่านั้น แต่กรณีที่มีการแต่งรถเพื่อเพิ่มความเร็ว เพื่อการแข่งขันถือเป็นการใช้รถผิดประเภท ประกันจะไม่ให้ความคุ้มครองครับ
ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองในกรณี:
- เมาแล้วขับ
- ขับรถแข่งความเร็ว
- ไม่ได้ทำใบขับขี่
- นำรถยนต์ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย
- ความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานหนัก หรือเสื่อมสภาพตามอายุ
- ขับรถออกนอกพื้นที่คุ้มครอง
- ใช้งานรถยนต์นอกเหนือจากที่จดกรมธรรม์ไว้
- นำรถไปลากจูง
- กรณีเกิดสงคราม ปรมาณู หรือกัมมันตภาพรังสีของเชื้อเพลิงปรมาณู
ค่าเสียหายส่วนแรก หรือค่า Deductible เป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันยินดีรับผิดชอบเมื่อมีการเคลมประกันในอุบัติเหตุที่เป็นฝ่ายผิดเอง เช่น ค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท เมื่อเกิดเหตุและมีความเสียหายเท่ากับหรือน้อยกว่า 1,000 บาท ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายเอง ทางประกันจะไม่ได้ชดเชยให้แต่ถ้าค่าเสียหายในครั้งนั้นมากกว่า 1,000 บาท บริษัทประกันจะรับผิดชอบส่วนต่างที่เกินมาให้นั่นเอง
ง่าย ๆ เลยก็คือ ค่า Excess เป็นค่าใช้จ่ายที่ “บังคับเก็บ” ไม่ว่าคุณจะทำประกันชั้นไหน หรือบริษัทใดก็ตาม โดยกรณีที่เข้าข่ายโดนเก็บค่า Excess ก็คือ อุบัติเหตุที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ส่วนค่า Deductible เป็นค่าใช้จ่ายที่คุณยอมเสีย “แบบสมัครใจ” ทุกครั้งที่มีการเคลมในอุบัติเหตุ “ที่คุณเป็นฝ่ายผิด”
เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ อย่างแรกให้ตั้งสติและโทรหาบริษัทประกันรถทันที เพื่อแจ้งเคลมกับทางเจ้าหน้าที่ โดยจะต้องบอกให้ละเอียดว่า เกิดเหตุขึ้นเมื่อไหร่ มีคู่กรณีหรือไม่ มีคนบาดเจ็บไหม หากมีหลักฐานกล้องวงจรปิดหรือพยานที่เห็นเหตุการณ์ ก็จะเป็นหลักฐานสำคัญในการเคลมประกันรถยนต์ของคุณได้ครับ
"ซ่อมอู่"
คือคุณต้องนำรถเข้าซ่อมกับอู่ที่อยู่ในเครือของบริษัทประกัน(ไม่ต้องสำรองจ่าย) หรืออู่อื่นๆที่อยู่นอกเครือ (ต้องสำรองจ่าย) เท่านั้น
"ซ่อมห้าง(x)"
คุณสามารถนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการของยี่ห้อรถยนต์ของคุณที่อยู่ในเครือบริษัทประกันได้ด้วย ซึ่งปกติแล้วเบี้ยประกันแบบซ่อมห้าง (ศูนย์) จะแพงกว่าแบบซ่อมอู่
จริงๆ แล้วเบี้ยประกันสามารถลดได้ครับ ควรหมั่นเช็กเบี้ยประกันทุกปี สำหรับรถที่ไม่เคยมีการเคลมประกันเลยในช่วงปีแรก เบี้ยประกันในปีต่อไปจะลดลง อีกกรณีหนึ่ง ถ้ารถเกิดอุบัติเหตุแล้วคุณเป็นฝ่ายถูก บริษัทประกันจะเรียกเงินค่าเสียหายจากคู่กรณีได้ก็ช่วยให้เบี้ยประกันในปีถัดไปลดลงเช่นกันถ้าคุณต้องการเปลี่ยน บริษัทประกันภัยใหม่ โดยมีประวัติการขับรถดี ไม่มีการเคลมประกันเลยก็สามารถนำไปลดเบี้ย ประกันกับทางบริษัทประกันใหม่ได้เช่นกันครับ
ในส่วนของการเริ่มต้นความคุ้มครอง จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ครับ ประกันรถยนต์ชั้น 1จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ หลังจากรถของคุณผ่านการพิจารณารับประกันภัยและตรวจสภาพจากบริษัทฯ เรียบร้อยแล้วเท่านั้น ส่วนประกันรถยนต์ 2+,3+,3 และ พ.ร.บ. จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ตามวันที่ที่คุณระบุไว้ เช่น ระบุเป็นวันที่ 1 มกราคม 2566 จะเริ่มคุ้มครอง 1 มกราคม 2566 (เวลา 00.01 น.) และสิ้นสุดความคุ้มครอง 1 มกราคม 2567 (เวลา 16.30 น.)
เพราะ gettgo ทำให้การซื้อประกันเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย สามารถค้นหา เปรียบเทียบและเลือกซื้อแบบประกันที่คุ้มค่า และเหมาะสมได้ด้วยตัวเอง มีช่องทางชำระเงินให้เลือกตามสะดวกและเลือกผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 10 เดือน