ประกันของเรา
บทความ
เกี่ยวกับ gettgo

รถเสียระหว่างทาง โทรหาใครดี?

รถเสีย

การมีรถยนต์ส่วนตัวนับว่าช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทางได้อย่างมาก อยากจะไปที่ไหน ใกล้หรือไกล แค่มีรถก็ไปได้ทุกที่ แต่อย่าลืมว่าทุกการสตาร์ทรถจะมาพร้อมกับความเสี่ยงอีกมากมาย ทั้งเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ หรือไม่ก็เสี่ยงที่จะรถเสีย แต่กรณีหลังมีความเสี่ยงสูงกว่าอุบัติเหตุ เนื่องจากอุบัติเหตุ หากไม่ประมาทหรือโชคร้ายมากเกินไป ก็คงจะไม่พบเจอกันบ่อย ๆ แต่รถเสียนี่สิ มีโอกาสเกิดได้ตลอดเวลา เพราะรถยนต์ที่ใช้งานกันอยู่ทุกวัน เครื่องยนต์ย่อมทำงานหนัก ต้องมีสึกหรอกันบ้างแหละ ไม่ต้องพูดถึงรถที่มีอายุมานานหลายปีเลย โอกาสที่จะเกิดรถเสียระหว่างทางยิ่งสูงเข้าไปใหญ่

แล้วถ้าหากรถเสียกลางทาง จะทำอย่างไรได้บ้าง? ไม่ว่าจะเสียในเมือง หรือระหว่างขับไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด สำหรับคนที่ขับรถมาหลายปีแล้ว คงตอบคำถามนี้ได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับคนมือใหม่หัดขับ เพิ่งซื้อรถมาหมาด ๆ คงจะตื่นตระหนกกันไม่น้อย

หลัก ๆ แล้วสิ่งที่ต้องทำเมื่อเกิดเหตุรถเสียระหว่างทาง มีขั้นตอนดังนี้


1. มีสติ : โปรดจำเอาไว้เสมอว่า ไม่ว่าจะเหตุการณ์ร้ายแรงขนาดไหน ตกใจได้ แต่ต้องกลับมาตั้งสติให้ได้เร็วที่สุด เคยสังเกตไหมว่า เวลาที่เราไม่มีสติ ตัวเราจะลนไปเสียทุกอย่าง ทำให้คิดหาทางแก้ปัญหาไม่ออก แต่แท้จริงแล้ว คำที่เขาว่า “ทุกปัญหา มีทางออก” ใช้ได้กับทุกคนเสมอ เมื่อมีสติแล้วเราจะรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับรถ ต่อไปต้องทำอะไร


2. เปิดไฟฉุกเฉินแล้วเคลื่อนรถเข้าข้างทาง : ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องใช้ในยามฉุกเฉิน และเหตุการณ์รถเสียก็เป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ต้องแจ้งให้กับผู้ใช้รถคนอื่น ๆ ได้ทราบ หากรู้ว่ารถเริ่มเกิดอาการผิดปกติ ให้รีบเปิดไฟฉุกเฉินทันที และหากยังพอขับได้อยู่ก็ต้องเคลื่อนย้ายรถเข้าข้างทางโดยด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน


3. โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ : หากรถเสียขึ้นมา บางครั้งเราอาจจะมีอุปกรณ์ไม่ครบ ซ่อมแซมลำบาก เคลื่อนย้ายไม่ได้ การโทรขอความช่วยเหลือจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเบอร์ตำรวจ 191 ตำรวจทางหลวง 1193 หรือรถพยาบาล 1669 ดังนั้นควรเตรียมข้อมูลเพื่อขอความช่วยเหลือให้พร้อม ทั้งอาการรถยนต์ สถานที่ที่เกิดเหตุ


4. ติดต่อประกันรถยนต์ : เพราะประกันรถยนต์เกือบทุกบริษัทประกันจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่ไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุสามารถช่วยเหลือเรายามฉุกเฉินได้ 24 ชั่วโมง เราจึงควรบันทึกเบอร์บริษัทประกันรถยนต์ของเราเอาไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน


อาการรถเสียที่มักเกิดขึ้นบ่อย

ยางแบนกะทันหัน

ยางรถแบนกะทันหัน

ทีนี้เรามารู้จักอาการรถเสียที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ บ้างดีกว่า เพราะบางทีเราอาจจะแก้ปัญหาเองได้ และไวกว่าโทรเรียกช่างหรือบริษัทประกันมาช่วยเสียอีก

ยางรถแบนกะทันหัน

ขณะที่ขับรถอยู่ได้ยินเสียงแปลก ๆ การทรงตัวของรถเริ่มผิดปกติไป หรือขับตกหลุมแรงมากและเริ่มรู้สึกว่าช่วงล่างรถเปลี่ยนไป แนะนำให้รีบจอดรถลงมาดูตัวยางรถยนต์ ไม่ควรฝืนขับไปจนถึงที่หมาย เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ และให้จอดรถบริเวณที่ปลอดภัยและออกจากรถ ลงมาดูจะเจอกับยางรถที่ไม่ปกติ อาจเริ่มแบน หรือมีรูรั่วที่เห็นชัด นี่คืออาการยางแบน อาจเกิดจากระหว่างขับไปขับทับอะไรที่สามารถทิ่มทะลุยางเข้า

วิธีเอาตัวรอดขณะรถเสียเพราะยางรถแบน

ทางรอดที่ 1 หากมีอุปกรณ์สำรองติดรถไปด้วยก็หายห่วง สามารถเปลี่ยนยางเองได้เลย 
ทางรอดที่ 2 โทรหาบริษัทประกันภัยของรถ เนื่องจากเกือบทุกประกันภัยจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ในเหตุการณ์ที่ไม่ใช่อุบัติเหตุทางท้องถนน และจะส่งเจ้าหน้าที่หรือช่างมาดูแลรถเรา 
ทางรอดที่ 3 หากไม่อยากรอบริษัทประกันภัย หรือรถเสียตามต่างจังหวัด แนะนำให้หาที่สูบลม หรือร้านซ่อมรถในบริเวณนั้น พึ่ง google map หาร้านซ่อมรถใกล้ ๆ

 

เครื่องยนต์ดับต่อหน้าต่อตา

เครื่องยนต์ดับต่อหน้าต่อตา

เครื่องยนต์ดับต่อหน้าต่อตา
 

ขับมาอยู่ดี ๆ รถเกิดดับกลางทาง แน่นอนว่าคนขับต้องตกใจเป็นธรรมดา ยิ่งถ้าดับขณะขับบนถนนที่มีรถหนาแน่นด้วยแล้ว ยิ่งต้องใช้สติมากขึ้นอีก เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แนะนำให้ทำตามนี้ดูก่อนโทรเรียกช่าง
 

วิธีเอาตัวรอด เมื่อรถที่ขับกำลังจะดับ หรือดับไปเฉย ๆ


ทางรอดที่ 1 พยายามประคองรถที่เหมือนใกล้จะดับเข้าข้างทางให้ได้มากที่สุด และอย่าลืมเปิดไฟฉุกเฉินไว้ด้วย
ทางรอดที่ 2 ลองประเมินดูคร่าว ๆ ว่าที่รถดับหรือสตาร์ทไม่ติดนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร บางทีอาจเป็นเพียงแบตเตอรี่รถยนต์หมด ในกรณีนี้ให้ดับเครื่องยนต์และอุปกรณ์ทุกอย่างบนรถให้เรียบร้อย จากนั้นหาทางจั้มแบตกับรถยนต์คันอื่น ๆ ดู ดังนั้นอุปกรณ์ที่จำเป็นก็คือสายจั้มแบต ควรพกติดรถไว้ตลอด
ทางรอดที่ 3 หรือใครไม่มั่นใจ หารถคันอื่นไม่ได้ โทรเรียกช่างมาดูเครื่องยนต์จะดีกว่า หากมีช่างประจำ โทรเรียกได้เลย แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยเจอรถเสีย ให้โทรหาบริษัทประกันภัยเพื่อขอความช่วยเหลือเบื้องต้น หรือโทรหาบริษัทรถที่เราซื้อมา หากรถยังอยู่ในระยะเวลาที่รับประกันตัวเครื่องยนต์ หรือมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

ความร้อนขึ้น

หากขับอยู่ดี ๆ แล้วหน้าปัดรถยนต์โชว์สัญญาณเตือนว่ามีความร้อนขึ้น (Overheated) นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์ของเราทำงานหนัก ขาดของเหลวช่วยระบายความร้อน เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับน้ำหล่อเย็นของเครื่องยนต์ การที่เข็มบนหน้าปัดยังไม่เคลื่อนไปถึงแถบสีแดงที่บ่งบอกว่ารถกำลังร้อนถึงขีดสุดแสดงว่ารถยังคงมีน้ำหล่อเย็นอยู่ แต่อาจจะน้อยเกินไป หากฝืนขับต่อไปจะทำให้เครื่องยนต์ของเราเสียหายได้ ทีนี้ละเรื่องใหญ่

วิธีเอาตัวรอด เมื่อเครื่องยนต์ความร้อนขึ้น

ทางรอดที่ 1 ระหว่างขับรถต้องหมั่นตรวจสอบมาตรวัดบนหน้าปัดตลอดเวลา หากมีสัญญาณเตือนขึ้นให้รีบแก้ไขทันที
ทางรอดที่ 2 เมื่อเห็นสัญลักษณ์เตือน ให้รีบนำรถเข้าข้างทาง และดับเครื่องยนต์ทันที หากเป็นมือใหม่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ให้โทรศัพท์เรียกช่างจากศูนย์บริการรถยนต์มาช่วย
ทางรอดที่ 3 หากใครมีความรู้หรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับรถยนต์มาบ้าง ก็ให้รีบจอดพักรถทันที และเติมน้ำยาหล่อเย็น หรือน้ำกลั่นเข้าไปในหม้อน้ำเพื่อลดความร้อน โดยข้อควรระวังคือ ควรเปิดฝาหม้อน้ำหลังจากเครื่องยนต์เย็นลงหรือรอหลังดับเครื่องประมาณ 15 นาที เพื่อไม่ให้น้ำร้อน ๆ พุ่งจากหม้อน้ำมาลวกมือ 


ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1

ข้อมูลที่ควรมี เมื่อต้องเจอเหตุการณ์รถเสียแบบไม่ทันตั้งตัว

ในการโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือทุกครั้ง เราต้องเตรียมข้อมูลดังนี้ให้พร้อม

รู้โลเคชั่น ก่อนโทรแจ้งรถเสีย เพื่อขอความช่วยเหลือ

ขับรถมาจอดเสียที่บริเวณไหน อยู่บนถนนอะไร หรือหากไปแถบต่างจังหวัด ให้จำสัญลักษณ์เด่น ๆ ที่ขับผ่านมา เพื่อเป็นข้อมูลให้ช่างหรือเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงที

รู้ข้อมูลรถ ก่อนโทรแจ้งรถเสีย เพื่อขอความช่วยเหลือ

1) ชื่อนามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์
2) เลขทะเบียนรถ หรือหมายเลขกรมธรรม์
3) อาการรถเบื้องต้น
4) สถานที่เกิดเหตุ

โทรแจ้งบริษัทประกัน หรือบริษัทรถเพื่อขอความช่วยเหลือ

เกือบทุกบริษัทประกันจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่ไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุให้เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้า แต่ทางที่ดีควรจะบันทึกเบอร์ฮอตไลน์ของบริษัทตนเองไว้ตั้งแต่แรก เผื่อว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จะไม่ได้ไม่ต้องตามหาเบอร์ให้วุ่นวาย และขอความช่วยเหลือได้รวดเร็วมากขึ้น


 

รถเสีย โทรขอความช่วยเหลือจากบริษัทประกันภัย

- เมืองไทยประกันภัย  บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน กรณีรถเสีย ตลอด 24 ชั่วโมง
ศูนย์แจ้งรถเสีย โทร.1484 กด 8 
- ประกันคุ้มภัย  อุบัติเหตุหรือขอความช่วยเหลือ
โทร. 02-257-8080
- เอ็มเอสไอจีประกันภัย ศูนย์ฮอตไลน์
โทร. 02-825-888 หรือ 1259
- อลิอันซ์ประกันภัย บริการช่วยเหลือ 24 ชม.
โทร. 02-638-9333
- สินทรัพย์ประกันภัย
โทร. 02-792-5555 หรือ 1729
- กรุงเทพประกันภัย
โทร. 02-620-8000
- วิริยะประกันภัย
โทร. 02-239-1557 หรือ 1557

เมื่อรถเสีย หากเลือกโทรหาบริษัทประกันภัย แต่ละบริษัทมีบริการช่วยเหลือมากน้อยแค่ไหน

สำหรับบางบริษัทประกันภัยและบางแผนประกันภัยจะมีบริษัทช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถเสียซึ่งจะขึ้นอยู่กับสิทธิประโยชน์ที่ประกันภัยนั้น ๆ มอบให้ ฉะนั้นตอนเลือกประกันภัยรถยนต์ ต้องดูในส่วนสิทธิประโยชน์นอกเหนือจากความคุ้มครองตัวรถเพราะสิ่งนี้จะช่วยซัพพอร์ตผู้ขับรถยนต์ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญเลยคือควรให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง และที่แน่นอน ฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย 


- บริการรถยก / ลากจูงไปถึงจุดหมายปลายทาง
- บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน
- บริการช่วยเหลือน้ำมันหมดฉุกเฉิน
- บริการให้คำปรึกษาด้านเทคนิค
- บริการจัดหารถสำหรับใช้ทดแทน
- อาจมีบริการอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ควรตรวจสอบจากกรมธรรม์ให้ดี

สามารถเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ทุกแผนที่เหมาะกับรถของคุณมากที่สุด พร้อมเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์และทุนประกันที่จะได้รับได้ที่นี่ GettGo.com เว็บไซต์เปรียบเทียบและซื้อประกันภัย ครบจบในที่เดียว
 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

เปิดขั้นตอนการไหว้แม่ย่านางรถยนต์ พร้อมคาถาไหว้เสริมมงคล
ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ซ่อมอู่ หรือ ซ่อมห้าง ควรเลือกแบบไหนดี ?
น้ำท่วม ประกันรถยนต์ชั้นไหนคุ้มครองบ้าง เงื่อนไขคืออะไร
ความคุ้มครอง ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 2 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี ประกันชั้น 3+ ประกันชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี
รถชน(ไม่มีคู่กรณี)
รถชน(มีคู่กรณี)
ค่ารักษาพยาบาล
รถยนต์สูญหาย
ไฟไหม้
น้ำท่วม

เข้าสู่ระบบ

หากยังไม่มีบัญชีผู้ใช้ กรุณา สมัครสมาชิก

 

สมัครสมาชิก

หากเป็นสมาชิกอยู่แล้วกรุณา ลงชื่อเข้าใช้งาน

Loading..

กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่ค่ะ 😊